ประวัติ
ประวัติความเป็นมาของคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คณะศิลปศาสตร์ได้ตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งคณะศิลปศาสตร์ขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2504 โดยมีศาสตราจารย์ ดร.อดุล วิเชียรเจริญ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการจัดตั้งคณะศิลปศาสตร์และขณะนั้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นคณบดีคณะศิลปศาสตร์คนแรก
ความมุ่งหมายในการจัดตั้งคณะศิลปศาสตร์นั้น ปรากฏอยู่ในโครงการ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเสนอต่อสภามหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.ศ.2504 ความว่า
“การที่จะให้นักศึกษามีความรู้ทั่วในแขนงวิชาด้านวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ก่อนเข้าศึกษาในแขนงวิชาเฉพาะด้านเป็นสิ่งที่น่าพึงปรารถนายิ่ง เพราะจะทำให้นักศึกษาเป็นผู้ที่มีพื้นความรู้กว้างขวาง มีทัศนะอันกว้าง มีความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติที่แวดล้อมในสภาพของสังคม และในธรรมชาติ และจิตใจของมนุษย์ อันจะยังผลให้ตนเข้าใจและรู้จักใช้ประโยชน์แขนงวิชาที่ตนจะได้ศึกษาเฉพาะด้านได้มากยิ่งขึ้น และทำให้มองเห็นความสัมพันธ์ต่อเนื่องของแขนงวิชาที่ตนศึกษาเฉพาะด้านอันมีอยู่ต่อแขนงวิชาอื่นๆ และต่อสิ่งแวดล้อมในทางธรรมชาติ สังคม และวัฒนธรรม ความรู้ความเข้าใจอันกว้างขวางประกอบกับความรู้ในแขนงวิชาเฉพาะด้านเช่นนี้ จะทำให้บุคคลผู้สำเร็จการศึกษาในชั้นปริญญาตรีเป็นผู้ที่รู้จักใช้ความคิดอ่านและใช้วิจารณญาณในการดำเนินชีวิตของตนเองในความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นและในการปฏิบัติการงานในหน้าที่ของตนได้ดียิ่งขึ้น และจะทำให้เป็นบุคคลที่มีคุณค่าและประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติยิ่งขึ้น”
จุดมุ่งหมายของการจัดตั้งคณะศิลปศาสตร์ในครั้งนั้น มีสาระสำคัญ 2 ประการคือ
1. เพื่อจัดสอนวิชาความรู้พื้นฐานทั่วไปทางสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และวิทยาศาสตร์แก่นักศึกษาชั้นปริญญาตรีทุกคนของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษามีความรู้ความเข้าใจอย่างกว้างขวางในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและสังคมตลอดจนมีความเข้าใจในเรื่องจิตใจมนุษย์ เห็นความต่อเนื่องของวิทยาการแขนงต่างๆ ซึ่งก่อให้เกิดวิจารณญาณอันดี สามารถนำความรู้เฉพาะด้านในแขนงที่ตนศึกษาไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่สังคมให้ดียิ่งขึ้น
2. เพื่อเปิดสอนจนถึงระดับปริญญาสาขาต่างๆ ทางด้านมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่ยังมิได้มีการจัดสอนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือที่มีการจัดสอนแล้วแต่ยังไม่ถึงขั้นประสาทปริญญา
คณะศิลปศาสตร์มีจุดมุ่งหมายหลักในการตั้งคณะศิลปศาสตร์ในขณะนั้นคือ การสอนวิชาหลักสูตรพื้นฐานของมหาวิทยาลัย ซึ่งมักเรียกกันว่า วิชาศิลปศาสตร์ หรือ Liberal Arts จึงอาจกล่าวได้ว่าคณะศิลปศาสตร์มีปรัชญาการกำเนิดจากหลักสูตรวิชา
พื้นฐานทั่วไป และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว คณะศิลปศาสตร์ได้เริ่มจัดการเรียนการสอนในวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2505 จึงถือว่า วันที่ 15 สิงหาคมเป็นวันสถาปนาคณะศิลปศาสตร์
การเปิดการเรียนการสอนในครั้งแรกนั้นกำหนดให้นักศึกษาที่เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทุกคนต้องศึกษาในคณะศิลปศาสตร์ ก่อนใน 2 ปีแรก โดยศึกษาวิชาพื้นฐานทั่วไป ซึ่งประกอบด้วยหมวดวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และภาษาต่างประเทศ ก่อนเข้าศึกษาในแขนงวิชาเฉพาะด้านใน ชั้นปีที่ 3 ซึ่งจัดสอนอยู่ในคณะต่าง ๆ
ในขณะนั้นคือ แขนงวิชานิติศาสตร์ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สังคมสงเคราะห์ศาสตร์
นอกจากการเปิดสอนหลักสูตรวิชาพื้นฐานทั่วไปในปี พ.ศ. 2505 แล้วคณะศิลปศาสตร์ยังได้เปิดสอนระดับปริญญาตรีโดยได้ผลิตบัณฑิตรุ่นแรกของคณะศิลปศาสตร์ในปี พ.ศ. 2508 จำนวน 71 คน จากสาขาวิชาต่างๆ ดังนี้
- สาขาคณิตศาสตร์
2. สาขาบรรณารักษศาสตร์
3. สาขาวิชาประวัติศาสตร์
4. สาขาวิชาภาษาศาสตร์
5. สาขาวิชาสถิติ
นอกจากนี้ คณะศิลปศาสตร์ยังได้เปิดสอนวิชาวิทยาศาสตร์เป็นวิชาเลือก และในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ สาขาวิชาคณิตศาสตร์ สาขาวิชาสถิติ และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ได้ถูกโอนไปสังกัดคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อมาคณะศิลปศาสตร์จึงได้เปิดสอนระดับปริญญาตรีสาขาวิชาต่าง ๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับ ดังนี้
สาขาวิชาระดับปริญญาตรี ปีที่เปิดสอน
- จิตวิทยา 2508
- ภาษาและวรรณคดีอังกฤษ 2509
- ภาษาอังกฤษ 2513
- ภาษาญี่ปุ่น 2514
- ปรัชญา 2514
- ภูมิศาสตร์ 2514
- ภาษาเยอรมัน 2514
- ภาษาฝรั่งเศส 2515
- ภาษาไทย 2515
- ภาษาจีน (เปิดเป็นวิชาโท 2527 และเปิดเป็นวิชาเอก 2533) 2515
- ภาษารัสเซีย 2518
- การละคอน (สาขาวิชาการละคอนได้โอนไปอยู่ในความรับผิดชอบ
ของคณะศิลปกรรมศาสตร์) 2525
- ศาสนา (หลักสูตรวิชาโท) 2525
- สเปนและละตินอเมริกันศึกษา (เปิดวิชาโทปี 2552 และเอกปี 2563) 2551
- เกาหลีศึกษา (หลักสูตรวิชาโท) 2561
นอกจากนี้ยังได้เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีในลักษณะโครงการพิเศษ ดังนี้
- โครงการอังกฤษ-อเมริกันศึกษา (หลักสูตรนานาชาติ) 2542
- โครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา 2543
- โครงการรัสเซียศึกษา 2546
- โครงการการสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ (หลักสูตรนานาชาติ) 2550
- โครงการการวิเทศคดีศึกษา (อาเซียน – จีน) (หลักสูตรนานาชาติ) 2557
โดยในปี 2566 คณะศิลปศาสตร์ได้พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรปริญญาตรีในกลุ่มโครงการพิเศษให้จัดการเรียนการสอน ดังนี้
- โครงการการสื่อสารเชิงธุรกิจ (หลักสูตรนานาชาติ) ที่ประกอบไปด้วยสาขาวิชาเอกภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ ภาษาจีนเชิงธุรกิจ ภาษาญี่ปุ่นเชิงธุรกิจ ภาษาเกาหลีเชิงธุรกิจ
- โครงการอาณาบริเวณศึกษา โดยมีสาขาวิชาเอกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา สาขาวิชาเอกรัสเซียและยูเรเซียศึกษา และสาขาวิชาเอกเกาหลีศึกษา
- โครงการอังกฤษ-อเมริกันศึกษา (หลักสูตรนานาชาติ)
- โครงการการแปลและล่ามในยุคดิจิทัล ซึ่งเป็นหลักสูตรใหม่ในปี 2566
สำหรับในระดับบัณฑิตศึกษานั้น คณะศิลปศาสตร์ได้เปิดสอนครั้งแรกในปี พ.ศ. 2527 จำนวน 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรปริญญาโทสาขาวิชาภาษาศาสตร์ (ภาษาไทย) (ปรับปรุงเป็นหลักสูตรภาษาศาสตร์เพื่อการสื่อสาร ตั้งแต่ปีการศึกษา 2545) และสาขาวิชาประวัติศาสตร์ และต่อมาได้มีการเปิดสอนในระดับบัณฑิตศึกษาเพิ่มขึ้น ดังนี้
สาขาวิชาระดับบัณฑิตศึกษา ปีที่เปิดสอน
- บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ 2529
- จิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ 2532
(เปลี่ยนเป็นโครงการพิเศษจัดการเรียนการสอนในภาคค่ำตั้งแต่ปี 2543)
- ประกาศนียบัตรบัณฑิตทางการแปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 2532
- ประกาศนียบัตรบัณฑิตการแปลภาษาไทยและภาษาฝรั่งเศส 2532
- ฝรั่งเศสศึกษา 2536
- การแปลภาษาฝรั่งเศส-ไทย 2536
- จิตวิทยาการปรึกษา 2539
- ญี่ปุ่นศึกษา 2540
- พุทธศาสนศึกษา 2540
- ภาษาไทย 2543
- ภาษาและวรรณคดีอังกฤษ 2543
(เปลี่ยนเป็นวรรณกรรมและการศึกษาเปรียบเทียบในปี 2563)
- ประกาศนียบัตรบัณฑิตภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจและการจัดการ 2547
- การแปลภาษาอังกฤษและไทย 2547
- ภาษาอังกฤษศึกษา (หลักสูตรนานาชาติ)
- สาขาวิชาวัฒนธรรมจีนศึกษา 2553
ในปีการศึกษา 2547 คณะศิลปศาสตร์ได้เปิดสอนหลักสูตรปริญญาเอก สาขาวิชาภาษาศาสตร์ (หลักสูตรปกติ) ซึ่งเป็นหลักสูตรปริญญาเอกหลักสูตรแรกของคณะ ในปีการศึกษา 2553 เปิดสอนหลักสูตรปริญญาเอก สาขาวิชาภาษาอังกฤษศึกษา (หลักสูตรนานาชาติ) ในลักษณะโครงการพิเศษ และในปีการศึกษา 2557 เปิดหลักสูตรปริญญาเอกสาขาวิชาประวัติศาสตร์ ในปีการศึกษา 2563 เปิดหลักสูตรปริญญาเอกสาขาวิชาญี่ปุ่นศึกษา ในปีการศึกษา 2564 เปิดหลักสูตรปริญญาเอกสาขาวิชาภาษาไทย ณ ปัจจุบัน คณะศิลปศาสตร์เปิดรับนักเรียนเข้าศึกษาในหลักสูตรระดับต่าง ๆ ทั้งระดับปริญญาตรี โท และเอก ซึ่งหากรวมหลักสูตรทั้งหมดที่เปิดสอนในคณะศิลปศาสตร์ในปัจจุบัน (ปี ๒๕๖๖) มีหลักสูตรรวมกันทั้งหมด ระดับปริญญาตรี 19 หลักสูตร (ภาคปกติ 15 หลักสูตร และโครงการพิเศษ 4 หลักสูตร) ระดับปริญญาโท 8 หลักสูตร และระดับปริญญาเอก 5 หลักสูตร ดังนี้
หลักสูตรระดับปริญญาตรี
ภาคปกติ (ศูนย์รังสิต) |
สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส |
สาขาวิชาภาษาเยอรมัน |
สาขาวิชาภาษารัสเซีย |
สาขาวิชาภาษาอังกฤษ |
สาขาวิชาภาษาและวรรณคดีอังกฤษ |
สาขาวิชาสเปนและลาตินอเมริกันศึกษา |
สาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรมจีน |
สาขาวิชาภาษาไทย |
สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น |
สาขาวิชาประวัติศาสตร์ |
สาขาวิชาจิตวิทยา |
สาขาวิชาปรัชญา |
สาขาวิชาภูมิศาสตร์และภูมิสารสนเทศ |
สาขาวิชาภาษาศาสตร์ |
สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ |
โครงการพิเศษ (ศูนย์ท่าพระจันทร์) |
โครงการอาณาบริเวณศึกษา |
- สาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา |
- สาขาวิชารัสเซียและยูเรเซียศึกษา |
- สาขาวิชาเกาหลีศึกษา (เปิดใหม่ปี 2566) |
โครงการการแปลและล่ามในยุคดิจิทัล (เปิดใหม่ปี 2566) |
โครงการอังกฤษอเมริกันศึกษา (หลักสูตรนานาชาติ) |
โครงการการสื่อสารเชิงธุรกิจ (หลักสูตรนานาชาติ) |
- สาขาวิชาภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ |
- สาขาวิชาภาษาจีนเชิงธุรกิจ (เปิดใหม่ปี 2566) |
- สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่นเชิงธุรกิจ (เปิดใหม่ปี 2566) |
- สาขาวิชาภาษาเกาหลีเชิงธุรกิจ (เปิดใหม่ปี 2566) |
หลักสูตรระดับปริญญาโท
สาขาวิชาภาษาอังกฤษศึกษา (หลักสูตรนานาชาติ) |
สาขาวิชาการแปลภาษาฝรั่งเศส-ไทย |
สาขาวิชาภาษาไทย |
สาขาวิชาญี่ปุ่นศึกษา |
สาขาวิชาภาษาศาสตร์ |
สาขาวิชาประวัติศาสตร์ |
สาขาวิชาพุทธศาสนศึกษา |
สาขาวิชาวรรณกรรมและการศึกษาเปรียบเทียบ |
หลักสูตรระดับปริญญาเอก
สาขาวิชาภาษาไทย |
สาขาวิชาญี่ปุ่นศึกษา |
สาขาวิชาประวัติศาสตร์ |
สาขาวิชาภาษาอังกฤษศึกษา (หลักสูตรนานาชาติ) |
สาขาวิชาภาษาศาสตร์ (หลักสูตรสองภาษา) |
คณะศิลปศาสตร์เปิดการเรียนการสอนในสองศูนย์ ได้แก่ ศูนย์ท่าพระจันทร์ ซึ่งเป็นศูนย์แรกตั้งอยู่อยู่กลางกรุงเทพมหานคร ริมฝั่งแม่น้ำพระยา และศูนย์รังสิตซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์การสอนหลักสูตรปริญญาตรีภาคปกติของทุกหลักสูตร
คณะศิลปศาสตร์ ศูนย์ท่าพระจันทร์
พื้นที่ของคณะศิลปศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ประกอบไปด้วยตึกคณะ พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ลานโพธิ์ จิ้งหน่อง ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ประวัติศาสตร์และความทรงจำแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่สะท้อนจิตวิญญาณความเป็นธรรมศาสตร์ และแสดงออกถึงศิลปะ วัฒนธรรมการเมืองในระบบประชาธิปไตย เรื่องราวอันทรงคุณค่าในอดีตของปูชนียบุคคล อาจารย์ ศิษย์เก่าในฐานะผู้ขับเคลื่อนกิจกรรมและพัฒนาการของมหาวิทยาลัยได้ส่งต่อการรับรู้ของนักศึกษาจากรุ่นสู่รุ่น คณะศิลปศาสตร์ ท่าพระจันทร์จึงไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่การศึกษาเท่านั้น แต่ยังเป็นสื่อเชื่อมโยงจิตสำนึกต่ออดีตและเรื่องราวอันทรงคุณค่าอีกด้วย ปัจจุบันคณะศิลปศาสตร์ ศูนย์ท่าพระจันทร์จัดการเรียนการสอนสำหรับหลักสูตรปริญญาตรีภาคพิเศษ ทั้งภูมิภาคศึกษาและโครงการนานาชาติ หลักสุตรระดับปริญญาโทและเอก คอร์สอบรมระยะสั้น ระยะยาว รวมถึงงานบริการสังคม
คณะศิลปศาสตร์ ศูนย์รังสิต
ศูนย์รังสิตเป็นที่ดินในโครงการขยายพื้นที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อรองรับการพัฒนาและการขยายตัวของมหาวิทยาลัยเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๐ โดยมีผู้ริเริ่มคนสำคัญคือ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เมื่อครั้งมีนโยบายขยายมหาวิทยาลัยออกไปยังศูนย์รังสิต คณะศิลปศาสตร์เป็นคณะแรก ๆ ที่มีมติย้ายการเรียนการสอนไปยังศูนย์รังสิต โดยในระยะแรกเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เริ่มเปิดการเรียนการสอนที่ศูนย์รังสิตในปีการศึกษา ๒๕๒๙ นักศึกษาชั้นปีที่ ๑ ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๒๙ เป็นต้นไปให้เรียนที่ศูนย์รังสิต โดยนักศึกษาของคณะสายสังคมศาสตร์หรือคณะเดิมที่ศูนย์ท่าพระจันทร์จะกลับมาเรียนที่ท่าพระจันทร์เมื่อขึ้นชั้นปีที่ ๒ โดยให้คงการเรียนการสอนในระดับบัณฑิตศึกษาไว้ที่ศูนย์ท่าพระจันทร์ และขยายเวลาการเรียนที่ศูนย์รังสิตเพิ่มเป็น 2 ปี ในปี ๒๕๔๕ จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นต้นมา การเรียนการสอนในภาคปกติระดับปริญญาตรีทั้งหมดอยู่ที่ศูนย์รังสิต
จากสัญลักษณ์แห่งความทรงจำ สู่พื้นที่รวมใจของชาวศิลปศาสตร์
จิ๊งหน่อง
จิ๊งหน่องเป็นงานประติมากรรมรูปคนที่ทำด้วยสำริดที่ตั้งอยู่ด้านในสวนศิลป์ของคณะศิลปศาสตร์ ศูนย์ท่าพระจันทร์ จิ๊งหน่องสร้างขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากประติมากรรมนักคิด (Le Penseur หรือ The Thinker) ของโรแด็ง (Auguste Rodin) ศิลปินชาวฝรั่งเศส มีรูปทรงพลิ้วไหวผสมผสานกับศิลปะแบบสุโขทัย ซึ่งศาสตราจารย์อดุล วิเชียรเจริญ ผู้ก่อตั้งคณะศิลปะศาสตร์เป็นผู้ริเริ่มความคิดและมอบหมายให้อาจารย์เขียน ยิ้มศิริ ศิษย์เอกของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นผู้ออกแบบและสร้างสรรค์ประติมากรรมนี้ขึ้นมาพร้อม ๆ กับการก่อสร้างอาคารคณะศิลปศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๕
จิ๊งหน่องนี้ เดิมทีศิลปินผู้สร้างงานได้เรียกผลงานชิ้นนี้ว่า “นักศึกษา” ซึ่งชาวศิลป์รุ่นแรกเรียกชื่อว่า “อดุลมุนี” และถูกเรียกว่า “จิ๊งหน่อง” โดยชาวศิลป์รุ่นที่สองจนได้รับความนิยมและเรียกกันต่อมาจนปัจจุบัน ประติมากรรมจิ๊งหน่องนี้ยังแฝงความหมายที่ลึกซึ้งไว้อีกด้วย โดยศาสตราจารย์อดุลได้อธิบายว่าเปรียบเหมือนการศึกษาวิชาการแบบตะวันตกและต้องรักษาความเป็นไทยหรือความเป็นตัวเองไว้ ดังจะเห็นได้จากท่าทางของจิ๊งหน่องที่ผู้สร้างตั้งใจให้สายตาของจิ๊งหน่องมองไปยังลายสือไทที่สลักบนผนังอาคาร มือซ้ายของจิ๊งหน่องถือตำราเรียนอันเป็นสัญลักษณ์ถึงความรักในการเรียนรู้ มือขวายกขึ้น ใช้นิ้วแตะคางทำท่าครุ่นคิด เลียนแบบรูปนักคิดของโรแด็ง เท้าซ้ายก้าวไปข้างหน้าคล้ายกับพระพุทธรูปปางลีลาของสุโขทัย เพื่อสะท้อนให้เห็นคุณลักษณะของนักศึกษาที่ควรเป็น คือ เมื่ออ่านศึกษาแล้ว ต้องคิดให้เกิดปัญญา เมื่อคิดแล้วต้องลงมือทำก้าวไปไม่หยุดนิ่ง และที่สำคัญต้องรู้จักผสมผสานความเป็นไทยและสากลเข้าด้วยกัน
ลานโพ
หมายถึงต้นโพบริเวณลานด้านหน้าตึกคณะศิลปศาสตร์ ติดกับประตูท่าพระจันทร์ ซึ่งในปัจจุบันกลายเป็นลานจอดรถของคณะศิลปศาสตร์และเป็นที่สัญจรของผู้คนในธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ประวัติของต้นโพนี้ไม่ปรากฏหลักฐานว่าเกิดขึ้นเมื่อไร แต่คาดว่าอยู่มาตั้งแต่ตอนที่พื้นที่บริเวณนี้เป็นของวังหน้า ครั้งเมื่อมีการก่อสร้างตึกคณะศิลปศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๐๕ มีผู้เสนอให้เสนอให้ตัดต้นโพ แต่ศาสตราจารย์อดุล วิเชียรเจริญได้ขอให้คงต้นโพนี้ไว้ ซึ่งต่อมาลานโพนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เนื่องจากเป็นสถานที่รวมกลุ่มชุมนุมเคลื่อนไหวของนักศึกษาในเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ และเป็นสถานที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองและการเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมการเมือง
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งคณะศิลปศาสตร์ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.๒๕๐๔
ศาสตราจารย์ ดร.อดุล วิเชียรเจริญ คณบดีคณะศิลปศาสตร์คนแรก
ภาพถ่ายมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ท่าพระจันทร์ก่อนสร้างตึกคณะศิลปศาสตร์
ภาพจำลองตึกศิลปศาสตร์ สร้างเสร็จปี พ.ศ. ๒๕๐๖ เป็นสถาปัตยกรรมแบบ Modernism
ที่เป็นที่นิยมในสมัยนั้น ทรงอาคารรูปตัว T ด้านท่าพระจันทร์มี ๕ ชั้น และขยายเป็น ๘ ชั้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๖
ภาพตึกคณะศิลปศาสตร์ฝั่งประตูท่าพระจันทร์ขณะกำลังต่อเติมอาคารจาก ๕ ชั้นให้เป็น ๘ ชั้นแบบในปัจจุบัน เปลือกอาคารชั้น ๑-๕ มีอักขระอักษรนูนต่ำที่สมบูรณ์ในตัวเองและยากต่อการต่อเติมให้มีความต่อเนื่องทั้งด้านรูปลักษณ์และเนื้อความ ดังนั้นเมื่อมีการต่อเติมอาคารระหว่างชั้น ๖-๘ จึงได้ตกแต่งเปลือกอาคารส่วนต่อเติมนี้ด้วยประติมากรรมนูนต่ำที่สร้างจากแผ่นดินเผาดังปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน
ภาพตึกคณะศิลปศาสตร์ฝั่งประตูท่าพระจันทร์ภายหลังการต่อเติมอาคารจาก ๕ ชั้นเป็น ๘ ชั้นเสร็จสมบูรณ์
ภาพเปลือกอาคาร ๘ ชั้นที่มีการตกแต่งด้วยอักขระอักษรนูนต่ำบริเวณชั้น ๑-๕ และประติมากรรมแผ่นดินเผาระหว่างชั้น ๖-๘ ดังปรากฏในปัจจุบัน
ภาพลานโพธิ์ในปัจจุบันหน้าอาคารคณะศิลปศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
ภาพถ่ายศาสตราจารย์ ดร.อดุล วิเชียรเจริญบริเวณด้านหน้าประติมากรรมจิ๊งหน่อง
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชชนนีพันปีหลวงเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นการส่วนพระองค์ เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๐ ได้เสด็จทอดพระเนตรห้องสมุดกลาง โรงพิมพ์มหาวิทยาลัย คณะศิลปศาสตร์ และเสด็จทรงดนตรี ณ หอประชุมใหญ่
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์เสด็จพระราชดำเนินมาทรงงานในฐานะพระอาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ ในตำแหน่งหัวหน้าสาขาภาษาฝรั่งเศสตั้งแต่วันที่ ๕ มกราคม ๒๕๑๓ ถึง ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒ รวมเวลา ๑๓ ปี ๔ เดือน ๑๓ วัน
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ทรงแสดงความยินดีกับลูกศิษย์รุ่น ๒๕๒๒ ในวันรับพระราชทานปริญญาบัตร
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินมาทรงเปิดศูนย์การเรียนรู้ราชนครินทร์ และห้องสมาคมศิลปศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ในพระอุปถัมภ์ฯ ในโอกาสเฉลิมฉลอง ๘๐ ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ๕๒ ปี คณะศิลปศาสตร์
ภาพคณะศิลปศาสตร์ ศูนย์ท่าพระจันทร์ในปัจจุบัน
ภาพคณะศิลปศาสตร์ ศูนย์รังสิตในปัจจุบัน